ความอดทนคือความสามารถของร่างกายในการต้านทานความเหนื่อยล้า มันเป็นสิ่งจำเป็นไม่เพียงแต่ในสนามกีฬา ไม่ว่าจะเป็นกีฬาอาชีพหรือการไปฟิตเนสคลับทั่วไป แต่ยังจำเป็นในชีวิตประจำวันด้วย เนื่องจากคนที่แข็งแกร่งจะรับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดและทำงานได้เร็วขึ้น
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ความอดทนขึ้นอยู่กับว่าคนเราเหนื่อยเร็วแค่ไหน ความเหนื่อยล้าสามารถแบ่งได้เป็นทางร่างกายและทางประสาท เพื่อให้ความเหนื่อยล้ามาช้าที่สุด จำเป็นต้องมีระบบหัวใจและหลอดเลือดและระบบทางเดินหายใจที่พัฒนาแล้ว
ขั้นตอนที่ 2
ความอดทนพัฒนาได้ดีที่สุดในกีฬา การออกกำลังกายใด ๆ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างและพัฒนากล้ามเนื้อรัดตัว นอกจากนี้ยังมีกีฬาที่มีความสามารถที่จะไม่เหนื่อยให้มากที่สุด คือ วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ฯลฯ
ขั้นตอนที่ 3
เพื่อพัฒนาความอดทน จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎทอง: การฝึกควรสม่ำเสมอ และภาระควรเพิ่มขึ้นทีละน้อย การไม่ปฏิบัติตามกฎนี้จะทำให้ร่างกายมีน้ำตารวมทั้งระบบประสาทเสื่อม
ขั้นตอนที่ 4
คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มวิ่งทันทีเพื่อสร้างความอดทน สำหรับผู้ที่ไม่ได้เล่นกีฬามาเป็นเวลานาน คลาสโยคะและพิลาทิสเหมาะเป็นอย่างยิ่ง โหลดแบบสถิตโดยปราศจากความเครียดและความเครียดจะช่วยให้คุณมีจังหวะการเล่นกีฬา
ขั้นตอนที่ 5
ความเหนื่อยล้าระหว่างการฝึกอาจเกิดจากการไม่สามารถหายใจได้อย่างถูกต้อง ก่อนที่คุณจะเริ่มออกกำลังกาย ให้ฝึกการหายใจสักสองสามอย่าง (การฝึกโยคะมีหลายวิธี) วิธีนี้จะช่วยให้คุณจับจังหวะการหายใจที่ถูกต้องในระหว่างการออกแรง
ขั้นตอนที่ 6
หากระบบทางเดินหายใจพัฒนาได้ไม่ดี คุณก็ลองทำเหมือนอยู่ในสระได้ การว่ายน้ำไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาปอดได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 7
เมื่อพัฒนาความอดทนอย่าลืมเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสม อาหารควรอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน มาโครและธาตุขนาดเล็ก หากต้องการ คุณสามารถปรึกษาแพทย์และเรียนหลักสูตรอาหารเสริมพิเศษสำหรับผู้ที่ร่างกายได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น
ขั้นตอนที่ 8
เมื่อฝึกความอดทน จำไว้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสนุกกับกระบวนการ นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าหากคุณออกกำลังกายด้วยอารมณ์ดีและรอยยิ้ม ประสิทธิภาพของการออกกำลังกายก็จะสูงขึ้นมาก!